ประสบการณ์ชีวิตและการปฏิบัติธรรม
ของคนธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ถูกเรียกว่าโพธิสัตว์น้อย
บทนำ
ข้าพเจ้าเริ่มทบทวนเขียนเรื่องของตนเองอย่างอย่างละเอียดจริงๆ
เมื่อข้าพเจ้ามีอายุย่างเข้า 49
ปี ก็คงจะจบสมบูรณ์จริงเมื่ออายุ 50
ปี เป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว ข้าพเจ้าผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากพอระดับหนึ่งทั้งประสบการณ์ในการทำงานและผ่านวิกฤติของชีวิตที่ผกผันมาได้
ข้าพเจ้ามีฐานะทางสังคมพอควร คือจบระดับปริญญาตรี
คณะวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อปีการศึกษา พ.ศ. 2525
(รุ่นที่ 9) หลายปีมาแล้ว ปัจจุบันมีฐานะครอบครัวอยู่ในระดับคนชั้นกลางของสังคม ฐานะการงานก็อยู่ในระดับผู้บริหารของบริษัทขนาดหย่อมมีพนักงานประมาณสองร้อยคน เป็นผู้จัดการฝ่ายคอมพิวเตอร์ เขียนโปรแกรมคุมระบบสต็อกและเอกสารต่างๆ
มีสต็อกตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ถึง 60-70 สต็อก ข้าพเจ้ามีความเป็นคนไทยอย่างเต็มตัวสมบูรณ์
ความจริงแล้วในประวัติของข้าพเจ้านั้นเมื่อข้าพเจ้าพิมพ์ไปทบทวนไป ก็สามารถจำรายละเอียดมากขึ้นๆ
ตามลำดับ ทั้งภาพและความรู้สึก
แต่เห็นว่ามันละเอียดเกินไปทำให้เนื้อหานั้นยาวเกินไป ทำให้น่าเบื่อได้
ข้าพเจ้าจึงจับเอาส่วนที่คิดว่าสำคัญ และน่าพอที่จะติดตามอ่านที่มีสาระเป็นสำคัญในการเขียนประวัติทั่วไปและข้อปลีกย่อย ส่วนเรื่องแนวความคิดความเห็นทางธรรมและทางโลกนั้นไม่ได้เขียนลงไปอย่างละเอียด
เพราะควรเป็นส่วนที่แยกไปอีกต่างหาก ถ้าใส่เนื้อหาเหล่านี้ลงไปจะกลายเป็นประวัติที่ยาวและไม่น่าอ่าน
เรื่องที่ข้าพเจ้าเล่าและเขียนนั้นเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริง ประสบเหตุการณ์นั้นก็จริง แต่ประสบการณ์บางอย่างนั้นพิสดารเหมือนกับนิทานจนเหลือเชื่อ
หรือเกินจะเชื่อได้สำหรับบุคคลทั่วๆ ไป
สำหรับข้าพเจ้านั้นไม่ว่าเรื่องต่างๆ
ในชีวิตจะดูวิเศษหรือพิสดารอย่างไร
ก็หาได้สำคัญเท่ากับการมีสติอยู่กับปัจจุบันธรรม แล้วดำรงชีวิตตามฐานะในสังคมได้อย่างปกติสุขและถูกต้องสมบูรณ์ ก็คือทำหน้าที่แห่งตนได้อย่างถูกต้องด้วยสติและปัญญาที่มี.