Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มัจจุราชเงียบ กับบุญกุศลพร้อมทั้งสติปัญญาสมาธิของการปฏิบัติธรรมมาช้านาน 2 vote ติดต่อทีมงาน

พอดีกระทู้เก่านั้นได้เลื่อนลงไปข้างล่างมากแล้ว จึงขอตั้งกระทู้ใหม่เพื่อเล่าให้จบตามที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นนะครับ.

จากกระทู้เดิม

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10172443/Y10172443.html

ผมขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงในสุขภาพของผม ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ

  ผมก็เล่าต่อจากกระทู้ที่แล้ว นะครับ.

   ตอนนี้อาการผมดีขึ้นแล้วครับ หลังจากเข้าโรงพยาบาลรอบ 2 อยู่โรงพยาบาลเป็นเวลาถึง 3 วัน แต่ยังไม่ปกติเท่าที่ควร และผมก็กำลังจะเสียฟันไปหนึ่งชี่ เพราะสภาวะที่เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดสมองนั้น ผมเกิดอาการแกร็งหรือช็อกแบบไม่รู้ตัวรวมด้วย ฟันขบกันแน่นแล้วบิดทำให้ฟันกรามที่ติดกับฟันเขี้ยวด้านขวาคลอน ตอนนี้อยู่ในช่วงที่โยกรอเวลาหลุดต่อไป เพราะอายุขนาดนี้แล้วรากฟันไม่สามารถติดแน่นดังเดิมได้ และตอนที่เกิดสภาวะช็อกนั้นโชคดีที่เส้นเลือดไม่แตก แต่คงบอบช้ำหนักพอประมาณ จึงฟื้นตัวอย่างช้าๆ .


   จากเรื่องเดิม ช่วงวันที่ 2 ในห้องไอชียู ผมได้กำหนดภาวนาแบบนี้อยู่เนื่องๆ

-------------------------------------------------------------------------
    เมื่อ เข้าใจชัดอย่างนั้นจึงวางกายและกองลม มารู้ชัดที่ ใจและความรู้สึกที่ปรากฏในปัจจุบันนั้นๆ แล้วยกข้อธรรมเพื่อพิจารณา แบบกึ่งภาวนาที่เป็นรอบๆ พร้อมกับทราบชัดเข้ากับสภาวะของใจที่เป็นปัจจุบันนั้น กับบทธรรมที่ยกขึ้นพิจารณาแบบกึ่งภาวนานั้น บทธรรมที่ยกขึ้นพิจารณาแบบกึ่งภาวนาก็คือ

สิ่งใดไม่เทียง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
ผู้มีปัญญา ควรพิจารณาเนื่องๆ ว่า นั้นไม่ใช่เรา นั้นไม่ใช่ของเรา นั้นไม่ใช่ตัวตนของเรา

พร้อมทั้งเห็นสภาพแห่งความที่เป็นจริงในปัจจุบัน ของใจหรือจิตที่ปรากฏอยู่ ซึ่งเป็นไปตามธรรมนั้น พิจารณากึ่งภาวนาวนรอบไปเรื่อยๆ เมื่อเกิดการเพ่งมากไป ก็จะต่อด้วยธรรมที่ให้เกิดการปล่อยวาง คือพิจารณากึ่งภาวนาว่า

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นเช่นนั้นเอง

พิจารณาปล่อยวางจนคลายและเป็นกลาง
-----------------------------------------------------------------------------

    จนบางครั้งเข้าสู่ความเงียบนิ่งไปนาน บางครั้งก็จะเหมือนมีสติรู้น้อยๆ กำลังภาวนาอยู่เสมือนอยู่ในกึ่งภวังค์ เป็นอยู่อย่างนั้นหลายๆ ครั้ง จนย้ายจากห้อง ไอชียู มายังห้องธรรมดา

    คืนแรกในห้องธรรมดานั้น ผมก็กำหนดภาวนาไปแบบเดิม และเห็นพร้อมทั้งเข้าใจความทุกข์ความไม่เที่ยงของสังขาร เพราะมีผัสสะ(ทางใจ)นี้แหละจึงเกิดการปรุงแต่ง จึงเกิดเวทนาสุขทุกข์อยู่เนื่องๆ ซึ่งก็คือสังขารนี้เอง ที่ปรากฏอยู่ตลอดเนื่องๆ รู้อยู่เืนื่องๆ จึงเกิดความรู้ขึ้นมาแวบหนึ่งว่า "วิสังขาร จึงจะพ้นจากสังขาร แต่จะเกิด วิสังขาร ต้องมีเหตุพร้อมและเป็นไปเอง"

    เมื่อมีความรู้แวบนี้เกิดขึ้นให้เข้าใจ ก็ปล่อยวางไป แล้วกำหนดภาวนาไปตามปกติจนเหลือแต่ภาวนาทางใจอย่างเดียวความรู้สึกที่เสมือน รู้ทางกายนั้นมีน้อยนิด หลังจากนั้นผลิกทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไป เสมือนไม่รับรู้ใดๆ รู้เพียงสงบเบาว่างทรงอยู่อย่างนั้น ก็ไม่ทราบว่านานเท่าไร ก็ถอยออกมารับรู้ความรู้สึกถึงใจที่อยู่ในสภาวะกึ่งภวังค์นั้น แล้วรู้กายชัดในท่าที่นั่งกรรมฐานอยู่

     เมื่ออยู่ในสภาวะปกติ ใจก็เฉยๆ เพียงแต่คิดว่า สภาวะธรรมนี้ต่างกับที่เคยปรากฏไปบาง ก็คิดเพียงว่า ไม่ควรไปปรุงแต่ง ให้ถือเพียงว่า บุญหรือบารมี ย่อมส่งผลในสิ่งที่ดีที่เหมาะสมที่สมบูรณ์ที่สุด

    หลังจากนั้นสติผมก็จะมากไปสักหน่อย ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีในการพักฟื้นสมองที่มีการบอบซ้ำให้คืนปกติโดยเร็วเท่าที่ควร.

ออ.. สุดท้าย ผมยังอยู่ในกามคุณ 5 เช่นเดิม กามราคะไม่ได้ขาดหายไปไม่.

จากคุณ : P_vicha
เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 14:55:56




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com