อ่านแล้วทำให้ผมนึกถึงเรื่องใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 127
ความบางตอนจากพาหิยสูตร
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพาหิยะ เพราะเหตุนั้นแล ท่าน
พึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง
เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ดูก่อนพาหิยะ
ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล ดูก่อนพาหิยะ ในกาลใดแล เมื่อท่านเห็นจัก
เป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อ
รู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มี ในกาลใด ท่านไม่มี
ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ย่อมไม่มีในโลกหน้า ย่อมไม่มีใน
ระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์.
ลำดับนั้นแล จิตของพาหิยทารุจีริยกุลบุตรหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ
ทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่นในขณะนั้นเอง ด้วยพระธรรมเทศนาโดยย่อนี้ของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนพาหิย-
ทารุจีริยกุลบุตรด้วยพระโอวาทโดยย่อนี้แล้ว เสด็จหลีกไป.
------------------------------------------------------------
ขอเพียงเธอเห็น ก็สักแต่ว่าเห็น ขอเพียงเธอได้ยิน ก็สักแต่ว่าได้ยิน รับรส สัมผัส ได้กลิ่น
เธอก็จักไม่เดือดร้อน เพราะสิ่งๆนั้นเลย ------------------------------------------- ขอบคุณสำหรับคำว่า"วิสังขาร" คำนี้มากๆครับ
รูปนี้ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ สุขอื่นเสมอความสงบไม่มี
ขออนุโมทนาสาธุครับ
จากคุณ |
:
ใจพรานธรรม
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ก.พ. 54 23:32:25
|
|
|
|