701 เรื่องคำทำนายและญาณรู้บางส่วนมาเล่าให้ฟัง
     
คำทำนายของเทพเทวดา ที่มีผลเป็นจริง เมื่อมองย้อนไปเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว
-  
เมื่อชีวิตของข้าพเจ้าในปี .2530-2531  เข้าสู่ภาวะตกต่ำทั้งที่มีสภาวะตกต่ำอยู่แล้วให้ตกต่ำลงไปอีก(อยู่ในเรื่องประสบการณ์กรรมฐาน) ต้องไปอาศัยพ่อกับแม่ข้าพเจ้า โดยข้าพเจ้าเรียนรู้การเพาะเห็ดขายด้วยตนเอง มีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 50 บาท ซึ่งขณะนั้นภรรยากำลังตั้ง  ครรภ์อยู่ จึงไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะพึ่งจบปริญญาตรี แต่ข้าพเจ้าและภรรยายังมีกำลังใจและกำลังสมาธิ พร้อมกับการที่ได้สัมผัสสิ่งต่างๆ ที่พิเศษจากบุคคลธรรมดา จึงทำให้ทนอยู่ในสภาวะอย่างนั้นได้ ทั้งที่ไม่เห็นหนทางสว่างของชีวิตเอาเสียเลย มีอยู่คืนหนึ่งข้าพเจ้าได้ฝันเป็น นิมิตว่า ภูเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย กลายเป็นภูเขาไฟระเบิดขึ้นมาติดต่อกัน 3 ลูก แผ่นดินไหวสะเทือนจนข้าพเจ้าตกใจกลัวต้อง ขับรถหอบครอบครัวมาหาพ่อและแม่ซึ่งอยู่ทางภาคไต้ เป็นนิมิตที่แปลกประหลาด เพราะข้าพเจ้าขับรถยนตร์ไม่เป็น และขณะนั้นไม่มีแม้แต่ เงินที่จะชื้อล้อรถยนตร์สักเส้น จึงให้ภรรยาเข้าสมาธิสื่อสัมผัสกับเทพเทวดา  เทวดาได้ทำนายนิมิตนี้บอกให้ทราบล่วงหน้าว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้าชีวิดข้าพเจ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 3 ครั้ง 2 ครั้งแรกชีวิตจะเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ครั้งที่ 3 ไม่ดีไม่เสีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียง ให้กำลังใจ แต่ถ้าพิจารณาดูตัวเองขณะนั้นไม่เห็นทางที่จะเป็นไปได้ ทั้งฐานนะทางสังคมและทางกฎหมาย แต่มาถึงขณะนี้เป็นเวลา 10 ปี กว่า ใน พ.2541 เมื่อมองย้อนกลับไปคำทำนายนั้นเป็นความจริง อย่างไม่น่าเป็นไปได้
        
การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 1    ปลายปี 2531 ข้าพเจ้าได้งานทำเป็นหลักเป็นแหล่งที่แน่นอนเป็นครั้งแรกในชีวิดจากบุคคลที่ครอบครัว ต้องแยก กันอยู่คนละทิศคนละทาง และเงินที่จะกินข้าวแต่ละมื้อก็ไม่คอยมี ต้องพลอยกินข้าวและอาศัยบ้านเพื่อนและจำเป็นต้องอดอาหาร  บางมื้อ การอดอาหารบางมื่อไม่ได้สำคัญอะไรมากหนักเพราะข้าพเจ้าถือศีล 8 มาเป็นช่วงๆ เวลาหลายปี  แต่ความทุกข์ที่เกิดจากการกดดัน  จากฐานนะการเงิน ทางสังคม ทางกฎหมาย และครอบครัวแยกกันอยู่ มันชั่งเจ็บปวดทุกข์อย่างแสนสาหัส ซ้ำโอกาสที่ข้าพเจ้า จะได้งานทำ  ที่มีรายได้แน่นอนแทบเป็น 0
           
การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 หลังจากนั้น 6 ปี พ.2537 หน้าที่การงานของข้าพเจ้าและภรรยามั่นคงขึ้น   และใน วันที่ 5 ธันวาคม พ.2537 ข้าพเจ้าก็ได้รับสัญชาติไทย หลังจากนั้นหน้าที่การงานและรายได้ของข้าพเจ้าเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ยกฐานะตนเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
            
การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 3.2540 งานของข้าพเจ้ามั่นคงขึ้น ฐานะทางครอบครัวดีขึ้น มีบ้านมีรถ เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว เป็นหน้ามือกับหลังมือจริงๆ

         คำทำนายของเทวดาที่เป็นจริงแล้ว เมื่อผ่านมา 1 ปี  . เดือน 7 / 2542
-  
ประมาณ เดือน มิถุนายน 2541 ข้าพเจ้าได้ฝันเป็นนิมิตที่ชัดเจนว่า ข้าพเจ้ากำลังยืนอยู่แล้วได้เงยหน้ามองท้องฟ้า เห็นดาวหางที่เป็นลูก  ไฟอยู่ไกลกำลังวิ่งตรงลงมาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเกิดความหวั่นกลัว เมื่อดาวหางลูกไฟนั้นตรงใกล้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นมันใหญ่โต แล้วลูกไฟ นั้นเปลี่ยนทิศทางวิ่งเฉไปทางทิศเบื้องหน้าข้าพเจ้า ขนานไปตามขอบโลก แล้วก็ตกลงในมหาสมุทรน้ำแตกกระจายเป็นคลื่นใหญ่ โลกสั่น สะเทือนไหว ข้าพเจ้าเกิดหวั่นวิตกว่ามนุษยโลกจะตายกันมากมาย แต่ผิดคาดเหตุการณ์นั้น ทำให้ข้าพเจ้าและคนบนโลกสามารถเห็นดวงดาว ในสุริยะจักรกาลชัดเจน เหมือนกับเห็นดวงจันทร์ตอนเต็มดวง  เป็นความฝันที่เป็นนิมิตชัดเจนเหมือนเมื่อปี  2530 ข้าพเจ้าจึงให้ภรรยา เข้าสมาธิ  สื่อสัมผัสกับเทพเทวดา และเทวดาทำนายว่า "การที่ท่านเห็นลูกไฟนั้นเป็นนิมิตที่ดี และไม่ได้ทำอันตรายต่อท่านและต่อมนุษยโลก ซ้ำยังทำให้ท่านและชาวโลกเห็นดวงดาวในสุริยะจักรวาลได้อย่างชัดเจน ก็คือทำให้ท่านและประเทศไทยเจริญขึ้น แล้วชาวโลกเจริญขึ้น และจะพ้นจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ในช่วงเวลา 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า" ซึ่งในขณะนั้นตามที่เทวดาทำนาย  ข้าพเจ้าก็ไม่คอยเชื่อ เพราะช่วง นั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำมาก บริษัทล้มกันเป็นแถว คนตกงานกันว่าเล่น กระจายไปทั่วทั้งเอเชีย และขณะนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นของรัฐบาล  นายชวนเป็นนายกของประเทศไทย เงินดอร์ลล่าในช่วงนั้น 41 ถึง 43 บาทต่อ 1 ดอร์ลล่า ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านสูงถึง 15.50 % ตามที่ นักวิชาการ ทางเศษรฐศาสตร์ของไทยและต่างประเทศวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจเมืองไทยต้องใช้เวลา 5 หรือ 6 ปี จึงจะพื้นตัวได้ แต่ ณ.ขณะนี้ เดือน กรกฎาคม พ.2542 เป็นระยะเวลา 1 ปีที่เทวดาทำนายเริ่มปรากฏเค้าความจริงขึ้นมาในประเทศไทย  คืออัตราแลกเปลี่ยนเงินอยู่ที่ 37 - 38 บาทต่อ 1 ดอร์ลล่า ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน 11.00 % และเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วกำลังจะพื้นตัว ถ้าเป็นลักษณะ นี้ต่อไปเศรษฐกิจเมืองไทยก็สามารถพื้นตัวได้ภายใน  2  ปีต่อจากนี้ก็เป็นไปได้

            ญาณรู้
           
ประมาณ ปี  2540  พนักงานที่ทำงานเดียวกับข้าพเจ้า จะว่าเป็นลูกน้องก็ไม่เชิง  แต่พนักงานคน นี้ต้องทดสอบโปรแกรมที่ข้าพเจ้า เขียน เพื่อเอาไปใช่งานในส่วนของงานที่น้องทำ วันหนึ่งน้องมาปรึกษาข้าพเจ้าว่า ที่ อะพาทเม้น  มีแขกคนหนึ่งที่อยู่อะพาทเม้นเดียวกัน ทำกรงดักนกเขาได้ 4 - 5 ตัว น้องคนนี้ สงสารนกเขานั้นมาก อยากให้ถูกปล่อยให้มีอิสระ ขณะที่คุยกันอยู่ ข้าพเจ้าครุ่นคิดอย่างสงบ เพื่อจะแนะนำ ก็ได้เห็นภาพนกเขาบินออกไปอย่างมีอิสระ ข้าพเจ้าจึงแนะว่าลองไปข้อร้องแขกคนนั้นดู เผื่อเขาจะปล่อย  หลังจากวันนั้น น้องก็นำเรื่องมาปรึกษาข้าพเจ้าอีกว่า  ได้ ไปขอร้องให้แขกคนนั้นปล่อย เขาก็ไม่ย่อมปล่อย ขอซื้อเขาก็ไม่ขาย น้องบอกเขาว่ามันบาปนะที่ เอามากักขัง  แขกบอกว่าเขาจะเลี้ยงไว้ฟังเสียงและดูเล่น  น้องหมดหนทาง ข้าพเจ้าจึงบอกน้องว่า วันหลังถ้ามีโอกาส ให้ขอร้องให้ปล่อยอีก หลายวันต่อมาน้องก็ทำตามที่บอก แต่แขกคนนั้นไม่ย่อมปล่อยนกเขา  ทิ้งเวลามาเป็นเดือน เมื่อถึงวันเกิดของน้อง น้องก็จัดงานกันที่อะพาทเม้น โดยที่ไม่ต้องข้อร้องแขกคนนั้นๆ บอกกับน้องว่า จะปล่อยนกเขาทั้งหมดเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้น้อง   ก็เป็นเรื่องที่แปลกอยู่เหมือนกัน

        -  วันที่ 23 ตุลาคม 2541 ข้าพเจ้าขับรถไปทำบุญที่จังหวัดชลบุรี และได้แวะเทียวที่หาดบางแสน ต้องขับรถตลอดกลับถึงบ้านก็เย็นแล้ว ก่อนเข้านอนเวลา ประมาณ 3 ทุ่ม ข้าพเจ้าก็เริ่มทำกรรมฐานเมื่อเข้าสู่ความสงบ แต่เนื่องจากต้องเพ่งอยู่กับการขับรถมาเกือบตั้งวัน จิตก็เสมือนตัวเองขับรถพุ่งไปข้างหน้าตลอดบนถนนที่เป็นทางยาวพุ่งไปเรื่อยๆ แล้วค่อยมีฝนตกพร่ำๆ แล้วตกมากขึ้นเรื่อย น้ำเริ่มมาก ขึ้นจนท่วมถนนแล้วเริ่มไหลแรงขึ้นเรื่อยๆ จนแรงมากและเป็นคลื่นแรง แล้วจิตข้าพเจ้าก็หลุดออกจากมโนภาพนั้นเป็นภาวะปกติ ก็กำหนดกรรมฐานต่อ แล้วเข้านอน วันรุ่งขึ้นก็บอกกับภรรยาว่า จะมีน้ำท่วมหนักปิดถนน พอเที่ยง วันที่ 24 ตุลาคม 2541 ภรรยาเปิดทีวี ก็มีข่าวว่า น้ำท่วมที่จังหวัดชุมพร และรถไฟสายใต้ไม่สามารถวิ่งได้ (หมายเหตุ ช่วงก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าไม่ได้ติดตามข่าวเลย จึงไม่ทราบข่าว  เรื่องพายุ และในกรุงเทพฯ นั้นหมดหน้าฝนไปแล้ว หลังจากนั้นมีพายุและน้ำท่วมในหลายประเทศ เช่นพิลิปินส์ และประเทศในแทบทวีป อเมริกา มีคนเสียชีวิตรวมเป็นจำนวนพันคน)

        -   ญาณรู้อายุขัยเบื้องหน้า  เพราะประมาณกลางเดือนตุลาคม 2541 ขณะที่อยู่ในสมาธิลึกเกิดนึกถึงชีวิตของตนเอง  ที่จะเป็นไปใน อนาคต โดยไม่ตั้งใจ ก็เกิดเป็นแสงสว่างของชีวิตเป็นปีๆ จนถึงอายุ 58 ปี  พอปีหลังจากนั้นแสงสว่างของชีวิตก็มืดลงไป แต่ยังเป็นปีๆ อยู่ประมาณ 5-10 ปี ทำให้รู้ว่าข้าพเจ้าจะมีชีวิตทำกิจกรรมตามปกติจนถึง 58 ปี หลังจากนั้นอาจจะบวชหรือเจ็บป่วยหรือไม่ค่อย ได้ทำกิจกรรมการงานทางโลก  หรือตาบอดเห็นลางๆ และจบชีวิตในช่วงอายุ 64-68 ปี ซึ่งต้องรอการพิสูจน์อีก 20 กว่าปีข้างหน้า (แต่สิ่งเหล่านี้  อาจเปลี่ยนแปลงได้ ถ้ามีกรรมตัดรอน หรือบุญพิเศษส่งผล)

          - เมื่อปี 2541 ขณะที่ข้าพเจ้า อยู่ในสมาธิลึกๆ อยู่ในอารมณ์เดียว ว่างอยู่ไม่มีความรู้สึกที่กายแม้แต่นิดเดียว จิตเกิดแวบนึกถึงพระเพื่อนที่เพิ่งบวช บังเกิดเป็นภาพพระห่มจีวร และบังเกิดญาณรู้มาทันที่ว่า พระเพื่อนรักษาพรหมจรรย์ ได้ตลอด ผมเลยแนะให้พระเพื่อนเรียนทางพระ ขณะนี้ปี 2543 พระเพื่อนก็ยังบวชอยู่ และกำลังเรียนเปรียญ  3 ประโยค ถ้าเป็นไป ตามญาณรู้ที่ปรากฏ และไม่มีอะไรอย่างร้ายแรงมากขัดขวาง พระเพื่อนคงบวชไปเรื่อยๆ ไม่ศึกออกมาแน่

        หมายเหตุ  ญาณรู้ทำนองนี้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าหลายอย่าง   แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น  เพราะหาได้มีความแน่นอนเสมอไปไม่ ควรทำในสิ่งที่เป็นจริงเป็นธรรมในปัจจุบัน แล้วในอนาคตความเป็นจริงและความดีก็บังเกิดขึ้นมาเอง อยู่ที่ว่าปัจจุบันนี้เราทำดีทำจริงเป็นธรรมจริงหรือเปล่า

                                         อ่านต่อหน้า 702                                              กลับหน้าแรก 100