วิเคราะห์/เสนอเรื่องตามความเห็นส่วนตัว รายครั้ง
เนื้อเรื่องภายใน เกี่ยวกับชีวิต สังคม ภาวะโลกร้อน นิมิตให้รู้ และการคาดการณ์

*** (เรื่องสังคม) บางส่วนที่ผมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณทักสิน ทั้งแต่เป็นรัฐบาลจนโดนปฏิวัติ จนถึงการถูกยึดทรัพย์ (3 มีนาคม พ.ศ. 2549 – 12 กันยายน พ.ศ. 2550)

*** (เรื่องภาวะโลก) ภัยพิบัติเกี่ยวกับโลก โลกร้อน ดินฟ้าอากาศ แผนดินไหว ที่ทราบก่อนและคาดการณ์ไว้

2. จากที่ผมนิมิตเห็นว่า หลังจาก 12 ตุลาคม 2548 ฝนจะตกไม่ทั่วฟ้า(คือที่ตกก็ตกจนท่วม ที่ไม่ตกก็แห้งแล้งเพิ่ม) สิ่งนั้นปรากฏชัดเจนขึ้นแล้วในปี 2550 ดังข่าวการเริ่มขาดน้ำในหน้าร้อนดังในประเทศไทยบางส่วนและในประเทศ ออดเตเลีย และจะเพิ่มขึ้นทุกปีในแต่ละพื้นที่ และเมื่อถึงหน้าฝนก็จะเกิดลมพายุขนาดรุนแรงขึ้นระเนระนาดไปหมด แล้วน้ำจะท้วมมากขึ้น
3. คาดการณ์ไว้ว่า ความรุนแรงทางภูมิอากาศ ทั้งความร้อน ลมพายุ และแผ่นดินไหวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าโลกจะถึงจุดสมดุลที่พอคงอยู่ได้ใหม่ คือมนุษย์โลกเลิกทำร้ายโลกที่อาศัยอยู่น้อยลง แต่ ณ. ปัจจุบันนี้โลกมนุษย์เสียสมดุลย์จากเมื่อก่อนไปมากแล้ว แผ่นดิน แผ่นน้ำก็จะปรับตัวใหม่อย่างชัดเจน ลม ฝน แห้งแล้ง จะปรากฏชัดเจนเกิดภัยพิบัติมากขึ้น
4. เรื่องที่ผมเกิดนิมิตประมาณวันที่ 24 ก.พ. 50 และคาดการณ์จากความรู้สึกไว้เมื่อวันที 28 ก.พ. 50 ปัจจุบันได้ปรากฏชัดเจนขึ้นแล้ว ดังความคิดเห็นจากกระทู้ในลานธรรม

มาต่อกระทู้ครับ  ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในการทู้เดือนกว่า เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรปรากฏชัดเจนในประเทศไทย เรื่องภูมิอากาศที่ผ่านมามากนัก

แต่ตอนนี้ภัยของภูมิอากาศ เริ่มปรากฏชัดอย่างช้า ๆ   ก็คือเรื่องภัยแล้งในบางแห่ง แล้วก็จะทวีความชัดเจนขึ้นครับ (คาดเดาเอาครับ) ลมร้อนก็จะรุนแรงด้วยครับ   ทางยุโรปและอะเมริกากำลังโดนลมหนาวพัดที่รุนแรง แต่ทางเอเชียกำลังจะโดนลมร้อนเข้ากระหน่ำ

ส่วนบ้านเมือง อาจจะเกิดการจัดแทวทหารกันอีก(ไม่น่าจะเสียเลือดเนื้อ)

ตอบโดย: Vicha 28 ก.พ. 50 – 13:34

เพิ่มเติม....
ส่วนบ้านเมือง  ....หรือจะเป็นการปรับคณะทำงานกันยกใหญ่ (เห็นมา สองสามวันที่แล้ว)


ตอบโดย: Vicha 28 ก.พ. 50 – 15:05

ถึง ณ. ปัจจุบัน 26 เม.ย. 50 ลมพายุฤดูร้อนได้ทำลายหลังคาบ้านชนบทในภาคเหนือและอีสานของประเทศไป หลายพันหลังแล้ว ซึ่งไม่เคยปรากฏมากเช่นนี้มาก่อนในประเทศไทย ส่วนประเทศจีน เวียดนาม ก็โดนไปมากเช่นเดียว และประเทศออดเตเลีย น้ำเริ่มไม่พอใช้ต้องประหยัดกันในบางส่วนของประเทศที่เคยเป็นที่แหล่งเก็บน้ำใหญ่ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนทางอเมริกาก็โดน ทอนาโด ถล่มเป็นจุดๆ
ส่วนคณะรัฐบาล หลังจากผมเห็นนิมิตไม่กี่วัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ลาออก และจนถึง ณ.ปัจจุบัน 26 เม.ย. 50 ก็มีการปรับรัฐมนตรีเพิ่มเข้าไปอีก นับว่านิมิตละการการคาดการณ์ เหตุการณ์นั้นได้ปรากฏครบแล้ว แต่คงไม่ใช่จะจบเพียงแค่นี้ ในเรื่องของโลกร้อน ภูมิอากาศลมพายุและน้ำถ่วมอนุหภูมิที่เปลี่ยนแปลงซึ่งจะมีมากเพิ่มขึ้นไปตามลำดับ

ช่วงนี้ภูมิอากาศหน้าฝน(7 กันยายน 2550) ก็เป็นปกติไม่ร้ายแรงในเมื่องไทย จึงไม่ได้เสนอข้อมูลอะไร ดังแสดงความคิดเห็นไว้ที่ลานธรรม ดังนี้

เก็บความคิดเห็นที่ 178 : (Vicha)

ตัดเอาจากกลอนคุณสาวิกา  สนทนาต่อ
แต่แรกเริ่ม         บอกเล่าขาน        ข่าวอากาศ
ทั้งประกาศ           ให้รู้ทั่ว               ทุกแห่งหน
ช่วงนี้ที่ไม่พูดเรื่องภูมิอากาศ เพราะภูมิอากาศในเมืองไทยไม่ได้เกิดร้ายแรงติดต่อกัน แต่ต่างประเทศโดนอ่วม...   แต่ก็หวั่นอยู่เหมือนกันในเมืองไทย กลัวว่าจะโหมมาที่เดียวกระจาย

แต่แรกเริ่ม บอกเล่าขาน ข่าวอากาศ     ทั้งประกาศ ให้รู้ทั่ว ทุกแห่งหน
เพราะช่วงนั้นภูมิอากาศชอบกล             แถมนิมิตดลให้ยลก่อนล่วงหน้า
ทั้งฝน แผ่นดิน โกลาหล โลกร้อน         บังเกิดช้ำซ้อน เป็นจุดเริ่มทั่วหล้า
จึงบอกกล่าวให้รู้กับประชา               ว่าอย่าพาลุ่มหลง ด้วยภัยเริ่มมา..
แต่บัดนี้ภัยกลายเป็นเคยชิน           เพราะทุกถิ่นภัยกระจายกันทั่วหน้า
ภัยเกิดเพราะคนนั้นแหละหนา             มั่วแต่บ้าทำร้ายโลกที่ตนอยู่

จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 29 ส.ค. 50 10:06 ]

ข้อความข้างล่างนิมิตได้เกิดขึ้นคืนวันที่ 7 กันยายน 50

เก็บความคิดเห็นที่ 326 : (Vicha)

กระทู้นี้มีสารละหลายเรื่องและก็ไม่มีสาระแต่บันเทิงก็หลายเรื่อง ส่วนผมก็ขอเสนอเรื่องภูมิอากาศแบบเก่าๆ โบราณ
ผมได้เข้าเน็ตก็วันจันทร์ มาบอกข่าวรายงานอากาศและแผ่นดินในเมืองไทยก็อาจจะล่าช้าไปแล้วก็ได้
เพราะ ผมได้เห็นในคืนวันศุกร์ ก็หลายฉากแต่ตัดเอาเฉพาะบางฉาก
               1.น้ำท้วม น่าจะเกือบถึงเข่า  พระเณร จะลำบากในการบิณฑบาตรในยามเช้า
               2.บริเวณเชิงเขา ริมหน้าผา เป็นที่น่าหวาดเสียว อาจตกหรือถล่ม
พอสายวันเสาร์ ผมก็ได้ข่าว ของกรมอุตุ แจ้งเตือนฝนอาจจะตกมากแถวอิสานและเหนือร่วมทั้งภาคกลางบางส่วน
พอวันอาทิตย์เห็นข่าวน้ำเริ่มเต็มล้นในบางจังหวัดทางเหนือ และที่พิษณุโลก ก็มีดินเชิงเขา สะไล้ มาปิดถนน
ต่อไปก็ไม่รู้ว่าปริมาณฝนจะตกเพิ่ม จนท้วม ถึงหัวเข่าจน พระ เณร บิณฑบาตรลำบากหรือเปล่า
แจ้งข่าวให้ทราบเพียงแค่นี้

จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 10 ก.ย. 50 09:44 ]

นับว่าในโลกอินเตอร์ได้รับข่าวสาร ได้อย่างรวดเร็วดี เสนอความคิดเห็นเมื่อ 09.44 น. ก็ได้ทราบข่าวในเวลา 10.08 น.

เก็บความคิดเห็นที่ 328 : (Vicha)

ได้ข่าวจากเนชั่น จึงนำเสนอ ว่าที่เห็นไม่ใช่เรื่องเท็จ
10:08 น.
เวลา 02.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเข้าท่วมหมู่บ้านน้ำพุง ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย กระแสน้ำพัดบ้านเรือนเสียหายไปหลายหลัง ข้าวของเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากสถานีตำรวจภูธร อ.ด่านซ้าย ว่ามีราษฎรถูกกระแสน้ำพัดสูญหายไปจำนวน 3 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตาม

ให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ทางอำเภอและจังหวัด ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน รวมทั้งเมื่อคืนนี้มีฝนตกตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำบนเทือกเขาที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน ไหลทะลักจากยอดเขาลงมา ซึ่งกำลังตรวจสอบความเสียหายว่าน้ำป่านี้มาจากเทือกเขาใด

จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 10 ก.ย. 50 11:36 ]

มีอยู่กระทู้หนึ่ง ในลานธรรม ที่คุณปุ้ยถามเกี่ยวกับเรื่องเทวดาทำอะไรบ้าง? ช่วยมนุษย์ยามวิกฤต และผมก็บอกในสิ่งที่รู้ให้ทราบก่อนแล้ว ถึงภูมอากาศ ดังนี้

เก็บความคิดเห็นที่ 48 : (Vicha)

แหม... คุณปุ้ย  ยังไม่เข้าสู่กลียุค เลยครับ ไม่น่าวิตกเลย จะเกิดก็จะเป็นเพียงหย่อมๆ เท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นกลียุค ไปทั่ว

ตอนนี้ภาคกลางและภาคอื่นเสมือนปกติ แต่น้ำจะแรงและกำลังท่วมภาคใต้ เป็นบริเวณบริเวณไป ภาคไต้จะเดือนร้อนแรงน้ำท้วม
ต่อไปภาคกลางและภาคเหนืออีสาน หมอก จะลงหนาจัดกว่าปีที่ผ่านมา(ไม่ใช่ควันไฟป่านะครับ)

ผมบอกไปอย่างนี้ ก็มีเค้าๆ ครับ เพราะกรมอุติก็ประเมินไว้แล้ว แต่ผมเห็นนิมิตนี้หลายวันแล้ว แต่ไม่มีที่หรือจังหวะบอก
จึงเหลือที่จะพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่จริง คือเรื่องหมอกจะลงจัดมาก ดูดูกันต่อไป

เป็นอันว่าผมบอกแล้วใครจะเชื่อบ้างไหมนี้  


จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 09 พ.ย. 50 18:34 ]

หลังจากนั้นคุณปุ้ยถามแบบทีเล่นที่จริง และเหตุการณ์ได้เกิดจริง โปรดสังเกตวันเดือนปีที่สนทนา ห่างกันสองเดือนแล้วผลปรากฏจริงดังนี้

เก็บความคิดเห็นที่ 68 : (Vicha)

จากความเห็นเก่า ...

อ้างอิง
ความคิดเห็นที่ 48 : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |

แหม... คุณปุ้ย ยังไม่เข้าสู่กลียุค เลยครับ ไม่น่าวิตกเลย จะเกิดก็จะเป็นเพียงหย่อมๆ เท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นกลียุค ไปทั่ว

ตอนนี้ภาคกลางและภาคอื่นเสมือนปกติ แต่น้ำจะแรงและกำลังท่วมภาคใต้ เป็นบริเวณบริเวณไป ภาคไต้จะเดือนร้อนแรงน้ำถ้วม
ต่อไปภาคกลางและภาคเหนืออีสาน หมอก จะลงหนาจัดกว่าปีที่ผ่านมา(ไม่ใช่ควันไฟป่านะครับ)

ผมบอกไปอย่างนี้ ก็มีเค้าๆ ครับ เพราะกรมอุติก็ประเมินไว้แล้ว แต่ผมเห็นนิมิตนี้หลายวันแล้ว แต่ไม่มีที่หรือจังหวะบอก
จึงเหลือที่จะพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่จริง คือเรื่องหมอกจะลงจัดมาก ดูดูกันต่อไป

เป็นอันว่าผมบอกแล้วใครจะเชื่อบ้างไหมนี้


จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 09 พ.ย. 50 


และจากคำถามของคุณปุ่ย ต่อจากนั้น...

อ้างอิง
ความคิดเห็นที่ 50 : (ปุ้ย) แจ้งลบ | อ้างอิง |

คุณกอบ เห็นด้วยครับ   (แต่ยังไม่หายข้องใจครับ   )
คุณวิชา ดีเหมือนกันนะครับ ไม่ต้องเดินทางไปดูทะเลหมอกไกลๆ แต่ภาคใต้นี่...หนักแค่ไหนครับ?
.............
.............

จากคุณ : ปุ้ย [ ตอบ: 10 พ.ย. 50 00:17 ]


จากที่คุณปุ้ยถามครั้งนั้นผมไม่สามารถตอบรายละเอียดได้ เพราะผมไม่รู้ไม่เห็นในรายเอียดอย่างชัดเจน และถึงตอบไปก็คงมีปัญหาได้ จึงปล่อยให้กาลเวลานั้นแหละพิสูจน์หรือเป็นคำตอบของตัวมันเอง...

สิ่งต่างๆ ได้ตอบมาแล้วเป็นดังนี้

จากคำถาม "คุณวิชา     ดีเหมือนกันนะครับ ไม่ต้องเดินทางไปดูทะเลหมอกไกลๆ"

ครับแม้แต่เราชาวกรุงเทพฯ หรือปริมนทลได้เห็นทะเลหมอกแล้วครับ ทั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 25541 และเที่ยวบินบางเทียวไม่สามารถลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องไปจอดที่ดอนเมื่องและเชียงใหม่  ทัศนาวิศัยในวันนั้นประมาณ น้อยกว่า 200 เมตร ต้องเปิดไฟหน้ารถ จนถึงเกือบ 8.00 (เช้า) หลังจากนั้นก็มีหมอกลงทุกวัน
และในวันอาทิตย์นี้ 13 มกราคม 2551 ทั้งแต่เช้ามืดมาก็เห็นทะเลหมอกไปทั้งทั้ง  เขตลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก และสพานสูง  ต้องเปิดไฟหน้ารถจน 8.00 โมงกว่าๆ หมอกหนากว่าวันที่ 10 เสียอีก ทัศนาวิสัยประมาณ 100 เมตร เป็นทะเลหมอกไปทั่ว...

และจากคำตอบ  "แต่ภาคใต้นี่...หนักแค่ไหนครับ?"
ผมไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่ข่าวก็ทยอยออกมา ทั้งแต่ท้วมแถว นครศรีธรรมราช และภายหลังมาหนักตรงสามจังหวัดภาคใต้ และเลยไปจนถึงมาเลเชีย (เห็นข่าวที่ผ่านมาเดือนที่แล้วหนักๆ และลำบากกันไม่ใช่เล่น แต่ก็ไม่เท่ากับอินโดนิเชีย หรือบังกลาเทศ)....

สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่แล้วก็คอยดับไป เวลาที่ผ่านไปนั้นหาได้มีประโยชน์อะไรเลยมากเลย แม้ว่าจะรู้หรือไม่รู้

แต่ความสำคัญกลับไม่ใช่สิ่งภายนอก เช่นเทวดาหรือการรู้เห็นเบื้องหน้า  กลับอยู่ที่การมีสติการเจริญสติ อยู่ในศีลธรรม เพื่อพัฒนาตนเองให้เกิดปัญญา จนถึงที่สุดของการดับทุกข์

สรุป
สุขหรือทุกข์ของโลก หรือของมนุษย์ ก็แทบจะไม่เกี่ยวข้องเลยกับเทพเทวดา แม้แต่การรู้เห็นเบื้องหน้าก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำไรได้ หรือแก้ไขอะไรได้มากเลย เพียงแต่บ่งชี้ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่ ข้อมูลอย่างนี้มีอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดความประมาทจนก่อกรรมทำชั่วกันอย่างมากมายโดยขาดความยั้งคิดจนกระทำกรรมลุล่วงแล้วเกิดอกุศลกรรมส่งผลในภายหลัง ทั้งส่วนตัวและสังคมโดยรวม เท่านั้นเอง

จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 13 ม.ค. 51 16:21 ]