เนื่องจากผมประสงค์รวบรวบสิ่งที่ผมคาดการณ์และวิเคราะห์ไว้ ตั้งแต่ เดือนสิงหา - ตุลาคม 2548 จึงเกิดหน้านี้ขึ้นมา ผิดพลาดประการใดหรือไปกระทบกับผู้ใดผมต้องขอโทษด้วยนะครับ และผมขอเตือนสติอยู่อย่างหนึ่ง การคาดการณ์การวิเคราะห์สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ว่าจะเกิดจริงหรือไม่จริง จึงไม่ควรถือเป็นบรรทัดฐานได้อย่างแม่นยำ จึงไม่ควรยึดมั่นว่าต้องเที่ยงแท้แน่นอน 
 
            1.ทราบข่าวเหตุภัยพิบัติบนโลกอีกครั้งหลังจากเกิด สึนามิ
            2.การคาดการณ์การตายที่โดนพายุเฮอริเคนที่นิวออนลีนสหรัฐอเมริกา
            3.การคาดการณ์การเกิดลมพายุมากครั้งช่วง กันยายน-ตุลาคม พ.ศ 2548 ทำความเสียหายในวงกว้างทั่วไป
            4.วิเคราะห์ ว่าไม่เกิดเหตุการณ์ น้ำท้วมใหญ่ในกรุงเทพฯ และไม่เกิดแผ่นดินไหวจนตึกพัง ในช่วง 11-19 ตุลาคม 2548 ที่มีผู้ทำนายไว้
            5.เห็นแผ่นดินเคลื่อนในสมาธิในเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดแผ่นดินไหวที่ปากิสถาน
            6.ทราบว่าหลังจาก 12 ตุลาคม 2548 ฝนจะตกไม่ทั่วฟ้า และการขาดแคลนน้ำกลางปีหน้าไปแล้ว

    1.ทราบข่าวเหตุภัยพิบัติบนโลกอีกครั้งหลังจากเกิด สึนามิ
       ผมได้กล่าวไว้ในเว็บลานธรรมแล้วหลังจากเกิด สึนามิ เมื่อเดือนธันวาคม ใหม่ ๆ ดังนี้
     ในกระทู้ ความตายใกล้ตัวเราเข้ามาทุกที นึกแล้วก็ขนลุก
      http://larndham.net/index.php?showtopic=13918&st=0#top

    ความคิดเห็นที่ 5 : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |

     มีผู้มาบอกเมื่อ ประมาณวันที่ 2 มกราคม นี้ ว่ายังมีเรื่องร้ายแรงอีกคล้ายดังเหตุการณ์คลื่นสึนามิ แต่คนละรูปแบบกัน ส่วนตัวเราก็ไม่คอยจะเชื่อหรอก!
แต่พอมีเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกตล่มมีคนติดอยู่และตายไปจึงเป็นเจ้าหน้าที่ที่ช่วยในการดับไฟ ก็แอะใจ แต่มันก็ไม่ใช้เรื่องใหญ่มากมาย
พอวันนี้ได้ข่าวรถไฟไต้ดินชนท้ายกัน ก็แอะใจเพิ่มขึ้นเพราะระบบนั้นไม่น่าผิดพลาดได้ เพราะได้รับการวางระบบอย่างดี
เหตุการณ์ทั้งสอง คือผู้ชำนาญการในการดับไฟและช่วยเหลือ กลับผิดพลาดจนไม่สามารถช่วยตัวเองได้ และระบบการจัดการจาราจรของรถไฟไฟฟ้าใต้ดิน ที่จัดระบบมาอย่างดีด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่เพิ่งเริ่มใช้งานยังผิดพลาดได้ ทั้งสองเหตุการณ์เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายเลย
และสองเหตุการณ์นี้ยังไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างใหญ่เลย (ขอภาวนาว่า เรื่องที่เขาบอกว่าร้ายแรงใหญ่ อย่าเกิดขึ้นเลย ถึงเกิดขึ้นก็ขออย่าได้ตัดรอนชีวิตสัตว์และทรับย์สินของเขาเลย)

     ดังนั้นเราท่านทั้งหลาย จงอย่าหลงละเลิง ทำกรรมอันเป็นอกุศล โดยผิดศีล 5 เป็นอาจิณเลย หมั่นทำบุญ รักษาศีล และปฏิบัติธรรมเถอด จงอยู่อย่างผู้ไม่ประมาท เพราะธรรมชาติที่ร้ายแรง หรือความผิดพลาด หรือการมุ่งร้ายต่อชุมชนเพื่อประโยชน์ตนและกลุ่มตน มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายนักในยุคปัจจุบันนี้
      จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 17 ม.ค. 48 13:44 ] แนะนำตัวล่าสุด | สมาชิกลานธรรมถาวร

     จากวันนั้นที่ผมได้บอกกล่าวไว้ยังไม่ถึง ปีเลย ประมาณ 10 เดือน ได้เกิดเหตุการณ์แผนดินไหว ที่ประเทศปากีสถาน เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2548 คนตายไปประมาณ 4 หมื่นคน ซึ่งเกิดแผนดินไหวเหมือนกัน แต่การเสียชีวิตของคนจำนวนมากนั้นเป็นคนละรูปแบบกัน ตามคำบอกเล่าอย่างชัดเจน

     2.การคาดการณ์การตายที่โดนพายุเฮอริเคนที่นิวออนลีนสหรัฐอเมริกา
     ผมได้คาดการณ์การตายของประชนชน หลังเกิดพายุเฮอริเคนยักพัดเข้าสู่เมืองนิวออนลีนลูกแรก จะมีคนตายประมาณ พันกว่าคนต้นๆ แต่สื่อพิมพ์ต่างๆ ต่างลงข่าวว่า คนตายจำนวน หนึ่งหมื่นขึ้น สรุปสุดท้าย คนที่ตายนั้นก็ประมาณ พันคนต้นๆ จริงๆ ดังความเห็นในลานธรรมที่ผมแสดงไว้คร่านั้น

       ในกระทู้ รายงานข่าว!!...วันนี้พยากรณ์อากาศ...ที่เขตบ้านคุณ   
       http://larndham.net/index.php?showtopic=16408&st=48

       ความคิดเห็นที่ 4 : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |

       สุขุมวิท 40
     ฝนตกนิดๆ ฟ้าเปิดบ้าง (เมฆน้อย) ฟ้าปิดบ้าง(เมฆมาก) เย็นนี้กลับบ้าน ไม่รู้ว่าฝนจะตกหรือ เปล่า แต่เมื่อคำวานและวานชือ ที่บ้านมีนบุรี-ลาดกระบังฝนตกจังหูเลย
     ที่น่าห่วงคือชาวอเมริกาที่โดนพายุ ทั้งที่ทราบล่วงหน้าด้วยเทคโนโลยีสูงก็ตายไปหลาย(ร้อย อาจพุ่งถึง พัน) ทรัพย์สินเสียหายประเมินยังไม่ได้ อีรักก็เยียบกันตายไปหลายคน

        จบข่าว
      จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 01 ก.ย. 48 15:56 ]

     ความคิดเห็นที่ 48 : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |
    มารายงานอากาศ ขณะนี้ที่สุขุมวิท 40 ฟ้าปิด(เมฆมาก) เลิกงาน 17.00 ฝนอาจตกได้
   เมื่อวานก็ตกไปแล้วตอนกลับบ้าน แถวรามคำแหงและสุขาภิบาล 3 รถสะอาดเลย
แต่ค่าเดินทางโครตแพงเพราะค่าน้ำมัน เดินทางไปกลับปาไป สองร้อยกว่าบาทแล้วต่อวัน เติมน้ำมัน 600 บาท วิ่งได้สองวันครึ่งเอง กรรมของคนใช้รถชดน้ำมัน ขนหน้าแข้งร่วงเลือดชิบๆ เลย

    แต่ก็อดเห็นใจอภิมหาอำนาจอย่างอเมริกาอยู่เหมือนกัน ขนหน้าแข้งร่วงกรูเหมือนกัน โดนไปหลายล้านล้านบาท เพราะพิษลมพายุ ไม่รู้ว่าเลือดชิบๆ หรือเปล่า?
    แต่สำหรับคนเสียชีวิตดูสถานการณ์แล้วตั้งแต่ต้น น่าจะอยู่ที่หลักหลายร้อย หรือหลักพันต้นๆ เท่านั้นไม่น่าจะเป็นหลักหมื่นไปได้ เพราะรู้ก่อนตั้งหลายวัน ถ้าเป็นประเทศอื่นก็ไม่แน่

   จบข่าว
   จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 09 ก.ย. 48 15:28 ]

     3.การคาดการณ์การเกิดลมพายุมากครั้งช่วง กันยายน-ตุลาคม พ.ศ 2548 ทำความเสียหายในวงกว้างทั่วไป
    ความจริงมีเหตุ เตือนให้ผมเห็นในคืนน้ำถ้วมเชียงใหม่-เชียงราย ในคืนน้ำถ้วมแล้วว่าน้ำถ้วมหนักครั้งแรกแล้ว ทั้งคนทั้งโอปาติกะที่อยู่กับวัตถุต่างหนีน้ำกันจ้าละหวั่น ตะโกนกันขอความช่วยเหลือกัน ทั้งคืน เช้าขึ้นมาก็เห็นภาพทางทีวีและหน้าหนังสือพิมพ์ ของน้ำที่ถ้วมเชียงใหม่ และเมื่อมีพายุเฮอริเคนพัดเข้าเมืองนิวออนลีนยับไปทั้งเมือง ผมก็เกิดการคาดการณ์ได้ทันที่เลยว่า ปีนี้ลมพายุและน้ำทำลายชีวิดและทรัพย์สิ้นคนอย่างมาก และจะเกิดพายุ อีกหลายลูก ดังที่ผมแสดงความคิดเห็นไว้แล้วในลานธรรมดังนี้
เริ่มต้นแจ้งข่าวอากาศกันต่อ

      ความคิดเห็นที่ 55 : (Vicha)
     เมื่อคืน 20.30 ที่บ้าน ถนนร่มเกล้า ฝนตกพร่ำๆ เล็กน้อย ตื้นเช้ามาก็เห็นฝนตกมาก หรือว่าเมือคืนฝนตกทัวทั้งกรุงเทพ อย่างนั้นหน้าผมคงไม่หัก และหน้าคงไม่แตกเรื่องพยายามเดา สักเท่าไหร เพราะความน่าจะเป็นของฝนตกในฤดูนี้มากกว่า 50 % ดังนั้นเมื่อพยายามเดาก็มีโอกาสใกล้เคียงมากกว่าที่จะผิดแบบเต็มๆ
    เช้านี้ฝนตกพร่ำๆ ตั้งแต่ถนนร่มเกล้า มอเตอร์เวร์ พระรามเก้า แต่ถึงที่ทำงานฝนไม่ตกแล้วฟ้าเริ่มเปิด

      แต่ที่น่านักใจสำหรับชาวโลกเรา(สัตว์ต่างๆ ด้วย) ต่างเริ่มทยอยรับผล ของลมพายุ ของฝนของน้ำ และภูมิอากาศ ที่ผันผวน ไปเรื่อย อีกยาว
วันก่อนผมได้เปิดดู กูเกิล เอิสล์ ได้เห็นโลกทั้งใบ เห็นเมืองต่างๆ ได้หมด เมื่อเทียบสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเมื่อวัยเด็ก 30 ปี กว่ามาแล้ว ขณะนี้โลกเรากำลังเปลื่ยนจากจุดสมดุลย์เก่าแล้ว เพื่อไปสู่สมดุลย์ใหม่ แต่สมดุลย์ใหม่กลับไม่นิ่ง เคลื่อนไปเรื่อยๆ 
      ความจริงแล้วโลกเรามีการเปลื่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงที่ผมพอประเมินได้คือ 1.การเปลี่ยนเปลงภายใต้ผิวโลก 2.การเปลี่ยนแปลงที่ผิวโลก 3.การเปลื่ยนแปลงบนผิวโลก แต่มนุษย์เรากำลังรบกวนการเปลี่ยนแปลง ที่ผิวโลก(แผ่นดิน) และบนผิวโลก(อากาศ) อย่างมาก ทั้งขุด ทั้งเจาะ ทั้งดูด(น้ำและน้ำมัน) ทั้งพ่น อย่างไม่หยุด ภาวสมดุลย์จึงเคลื่อนไปเรื่อยยังหาจุดนิ่งหรือช้าลงได้ยาก แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติ ตามเหตุและปัจจัยนั้นเอง
      เราท่านทั้งหลายก็คงยังให้ทาน แบ่งปันกันตามมีตามได้ รักษาศีล ปฏิบัติธรรมตามควร เพราะโลภภายนอกทั้งหลายย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยของมันเองเป็นธรรมดา
      จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 13 ก.ย. 48 09:55 ]

      ความคิดเห็นที่ 70 : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |
       แหมก็ คุณสะพานพุทธ ให้ผมติดต่อโทรจิตกับเทวดา ผมโทรจิตเป็นเสียเมื่อไหร?
และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของชุมชนชาวโลก เทวดาคงไม่มีเอี่ยวด้วยหลอกเหนอะ
       ว่าแล้วผมก็หมุนเก้าเลื่อนไปที่หน้าต่าง เปิดม่านมองดูท้องฟ้า ที่โดนกันสาดบังไปเสียส่วนมาก แล้วพยาเดา ออ! พยายามเดา อีกแล้ว
ฟ้าก็ยังไม่เปิด เมฆฝนก็ยังประปลายอยู่ แต่คิดว่าฝนจะไม่ตกหนักเหมือนเมื่อคืนวานและเมื่อวานนะครับ แต่คงตกประปลายเหมือนก่อนเมื่อคืนวาน อีกวัน สองวันเนอะ จะได้รับฟ้าหลังฝนอีกหลายรอบ แล้วค่อยรอรับระรอกใหม่อีกครั้ง
       มันเป็นเช่นนี้เองเพราะเป็นฤดูฝน แต่ความเสียหายต่อทรัพย์สินมันกว้าง ก็เพราะ ตัด ขวาง เจาะ ขุด ดูด กันมากขึ้น
       ไม่น่าจะเครียดอะไร มันเป็นของมันติดต่อมาอย่างนี้หลายปีแล้วเนอะ แต่ปีนี้ดุหน่อยโดยภาพรวม
       จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 15 ก.ย. 48 09:25 ]

     หลังจากนั้นมีพายุพัดผ่านทางภาคเหนือหลายระรอก เชียงใหม่-เชียงรายโดนน้ำถ้วมถึง 3 ครั้ง พายุเฮอริเคนยักก็พัดเข้าอเมริกาอีกลูก แม้ในขณะที่นี้ วันที่ 19 ตุลาคม ก็ยังมีพายุเฮอริเคนยักอีกลูกหนึ่งกำลังก่อตัวเข้าฝั่งอเมริกา สรุปแล้วความเสียต่อทรัพย์สินไปมากและชีวิตมนุษย์

     4.วิเคาระห์ ว่าไม่เกิดเหตุการณ์ น้ำท้วมใหญ่ในกรุงเทพฯ และไม่เกิดแผ่นดินไหวจนตึกพัง ในช่วง 11-19 ตุลาคม 2548 ที่มีผู้ทำนายไว้
   เมื่อมีผู้ทำนาย ว่าจะมีการเกิดน้ำถ้วมใหญ่ในกรุงเทพฯ และแผนดินไหวจนตึกพัง ในช่วง 11 - 19 ตุลาคม 2548 ข่าวออกมาช่วงเดือนกันยายน ผมจึงแสดง ความคิดเห็นแย้งๆ โดยอ้อมในความเห็นนี้ในลานธรรม

     ความคิดเห็นที่ 165 : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |
         เข้ามาทักทายไม่ให้กระทู้นี้ของคุณ สะพานพุทธ ตกไป เพราะเรื่องฝนฟ้าอากาศ ยังไม่ผ่านพ้นไป ยังมีเรื่องให้คุยกันต่อได้ ทำให้คลายเครียด และมีใจชุมชื่นและเบิกบาน เมื่อได้ดูรูปภาพของ คุณชาคโร คุณนักเดินทาง คุณParatee
      เอามารายงานอากาศวันจันทร์ อังคาร ที่ผ่านมา และวันพุธนี้ แถวมีนบุรี-ลาดกระบัง และสุขุมวิท 40 ไม่มีฝน อากาศดีแดดไม่จ้าแบบร้อนมากนัก
       เป็นอันว่าพายุ(ภาษาเขมร) ไม่มีผลต่อกรุงเทพฯ ตามที่พยายามเดาไว้ในความเห็นก่อน ถ้ามีผลสิ! หมู่บ้านที่ผมอยู่โดนลอยเกาะแน่
       ผมก็ระแวงและคิดว่าผมแปลกที่พยายามเดาอากาศและพายุ แต่พอไปเจอ กระทู้ เรื่องทายภัยพิบัติ โอ้ย กลับมากกว่าผมเสียอีก จึงหันมามองตัวเองคิดเข้าข้างตนเองว่า อย่างนั้นผมไม่น่าจะผิดปกติหรือแปลกเท่าไหร เพราะกลัวอยู่เหมือนกันว่าคนอื่นจะตำหนิว่าเป็นการคิดสั้นไปหรือเปล่าที่ไปพยายามเดาอย่างนี้ แต่ใจจริงก็คือ เล่นๆ คลายเครียดไปวันๆ กับเรื่องฝนฟ้าอากาศ กระทู้นี้ก็จะได้มีสีสรรเท่านั้นเอง
      เพื่อให้กระทู้มีสีสรร ผมก็พยายามเดาต่อก็แล้วกัน ปีนี้ ฝน ลม ดุ มาหลายละรอกก็จริง แต่ในเมื่อมีเทคโนโลยีสูงอย่างนี้ การสูญเสียชีวิตก็คงหาได้มากมายหนักในแต่ละที่ แต่เมื่อรวมกันหลายที่ก็ขึ้นหลักหลายพันอยู่เหมือนกัน หนักกว่าปีก่อน ถ้ากล่าวถึงเฉพาะฤดูกาล ไม่รวมสึนามิ
      ที่น่าวิตกก็คือถ้าพายุโดนเมืองตรงๆ เมืองนั้นก็อัมพาตไปชั่วคราว ให้ลำบากกันเล่นนิดน้อย แต่มีหลายที่หรือหลายคนหมดตัวก็มีอย่างในอเมริกา เวียดนาม จีน อินเดีย ฯลฯ คงไม่มากไปกว่านี้แล้วมั่ง
      สำหรับลมพายุในช่วงที่หน้าฝนยังไม่หมด ก็คงยังมีเป็นระลอกอยู่เพราะเป็นฤดูของเขา
       ที่ต้องระวังและแก้ไขหลังจากสิ้นหน้าฝนไปแล้ว ก็เรื่องภาวะโลกร้อน และการใช้ทรัพยากรน้ำมากเกินไปแล้วน้ำจะไม่พอใช้ตลอดปีในบางจุด บางส่วน น่าจะได้ยินเสียงโว้ยกันอีกและอาจหนักว่าปีนี้
       
       จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 28 ก.ย. 48 15:39 ]

      หลังจากนั้นผมก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นนี้ตรงๆ ในกระทู้      หากช่วง 11 – 29 ตุลา 48 มีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริง
      http://larndham.net/index.php?showtopic=16812&st=36

     ความคิดเห็นที่ 36 : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |
             ขอเอาข้อมูล วิชาการมาแปะ ให้คลายความหวั่นวิตกลึกๆ โดยอาศัยหลักเกณท์ทางวิทยาศาสตร์ เพราะเรื่องน้ำท้วม ชิดซ้ายไปเลยเมื่อกล่าวถึงเรื่องแผ่นดินไหวรุนแรง 7.5 ริกเตอรขึ้นไป เมื่อศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยูบริเวนใจกลางเมื่อง
        เป็นอันว่า เมื่อคืนผมได้ข้อมูล ทางธรณีวิทยารอยเลื่อนของเปลือกโลก อย่างสมบูรณ์และชัดเจนที่สุด ในทีวีรายการ กรองสถานะการณ์ ทางช่อง 11 และรายกาย ถึงโลกถึงคน ของคุณสรยุตร์ทางช่อง 9   ได้ความว่า
    1. กรุงเทพฯ ไม่ได้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนหรือรอยแตกของเปลือกโลกโดยตรง
    2. รอยเลื่อนของเปลือกโลกในเขตเมืองไทย จะอยู่ทางภาคเหนือ และแนวติดเขตกับประเทศในพม่า และบางรอยเลือนพาดผ่านประเทศไทย เฉียงจากตะวันตกเฉียงเหนือตัดยาวไปยังทิศตะวันออกเฉียงไต้ ผ่านเขมรและทะลุไปยังเวียดนาม แต่เป็นรอยเลื่อนที่เสมือนจะสงบนิ่ง
ส่วนรอยเลื่อนที่มีการสั้นไหวอยู่เมื่อไม่นาน อยู่บริเวณ จังหวัดกาญุจนบุรี ที่เคยสั่นไหว ประมาณ 5 ริกเตอร์กว่า มาแล้ว เมื่อปี 2526 ซึ่งในขณะนั้น ผมกลังเรียนภาคฤดูร้อนในกรุงเทพ นั่งเรืยนอยู่ในตึก โอ้พื้นตึกและตัวตึกไหว หลอดไปที่แขวนอยู่แกว่งเห็นอย่างชัดเจน
   3. รอยเลือนที่มีความรุนแรงนั้นจะอยู่ในประเทศพม่า ซึ่งพาดจากเหนือลงใต้ของประเทศพม่า ทอดยาวไปจนถึงเขตมหาสมุทร คือรอยเลื่อนสะแก ซึ่งจะเกิดแผ่นดินไหวเป็นระยะๆ ในช่วง 10 ถึง 20 ปี

     ดังนั้นจะได้ว่า
      1. โอกาสแผ่นดินไหวในประเทศไทย ย่อมมีความน่าจะเป็นน้อยกว่าประเทศพม่าและทางตอนเหนือของอินเดิน รวมทั้งประเทศที่อยู่เหนือขึ้นไปของอินเดีย
      2. แต่ถ้ามีการเคลือนหรือแผ่นดินไหวของรอยเลือนสะแก ในประเทศพม่า อาจทำให้มีแรงกดสะสมกับรอยเลือนที่ฟาดผ่านประเทศไทย เพราะรอยเลือนในประเทศไทยนั้นไปบรรจบกับรอยเลือนสะแก ซึ่งอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยได้ แต่โอกาศมีไม่มากนัก และที่น่าระวังคือเรื่องเขื่อนในเขตกาญจนบุรี ที่อาจทำให้ร้าวหรือน้ำทะลักได้ ดังนั้นประชาชนที่อยู่ใต้เขื่อนอาจจะต้องทำการช้อม และทำทางหนีน้ำไว้ได้ทันทวงที เมื่อการสั่นไหวเตือนภัยก่อนที่น้ำน้ำทะลักออกมา
    3. สำหรับกรุงเทพนั้น คงไม่มีปัญหาที่จะเป็นจุดเสี่ยงที่จะอยู่ในเขตศูนย์กลางของแผนดินไหว แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนดินเลนซึ่งมีการยุบตัวอยู่ทุกปี ก็คือพื้นใต้กรุงเทพฯ นั้นหนาด้วยดินเลน ถ้าเกิดมีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่มีศูนย์กลางใกล้กรุงเทพฯ ก็จะทำให้แผ่นดินบริเวณกรุงเทพฯ สั่นสะเทือนมากและนานกว่าปกติ เพราะพึ้นแผ่นดินยืดหยุ่นได้มาก อาจทำให้สิ่งก่อสร้าง สูงๆ หรือที่ไม่มั่นคง เกิดการสั้นโยก จนถึงจุดกำทอนทำให้การสั้นโยกรุนแรงขึ้น สิ่งก่อสร้างน้นก็อาจพังเคลือนลงได้
         เป็นอันว่าผมได้สรุปตามที่ผมได้ดูในทีวีที่ดอกเตอร์หลายท่าน ได้อธิบายและได้ให้ดูแผนภาพต่างๆ ของรอยเลือน ตามข้างบน

     จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 11 ต.ค. 48 10:05 ]

        5.เห็นแผ่นดินเคลื่อนในสมาธิในเวลาใก้ลเคียงกับที่เกิดแผ่นดินไหวที่ปากิสถาน
     ผมได้แสดงความเห็นในลานธรรมไว้แล้วดังนี้

          เนื้อความ : (Vicha) แจ้งลบ | อ้างอิง |

       ผมเพิ่งได้มานึกถึงกระดานเฉพาะกิจเกียวกับภัยพิบัติ ซึ่งสามารถตั้งกระทู้ผสมประสานกันได้ กับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ทางธรณีวิทยาเปลือกโลก ของผู้ที่มี่ความรู้ด้านนี้
       ผมขอยกข้อมูลที่ผม Post ไว้ในกระทู้ของคุณสะพานพุทธ เรื่องการพยากรณ์อากาศที่บ้านท่าน ดังนี

อ้างอิง
     ต่อไปก็เป็นการพยายามเดา เป็นอันว่าหลังจากอาทิตย์นี้ไป ใน กทม. ฝนก็คงห่างไปแล้วครับ น้ำจะท่วมทั่ว กทม. หรือเปล่า? น่าจะมีโอกาศเกิดขึ้นน้อยแล้วครับ แต่อาจจะมีการตกหนักบางส่วน ท่วมเฉพาะที่ๆ ไป แต่ไม่ก่อเกิดปัญหายืดยาวเพราะระบายออกได้ แต่ก็คงมีน้อยแล้วนะครับ

     ต่อไปก็เตรียมรับปัญหาเรื่องน้ำอาจไม่พอใช้ตลอดทั้งปีให้ดี ก็แล้วกัน

    สุดท้ายน่าสงสาร ชาวปากีสถานเนอะ แผ่นดินไหวครั้งนี้ชีวิตมนุษย์ต้องสังเวยไปทะลุ สามหมื่นคนไปแล้ว

    ผมเห็นเอง ถึงภายรอยแตก และการเลือนของรอยแตกนั้นลงมาทางด้านไต้ ประมาณ 9 ถึง 11 โมง ในเช้าวันเสาร์ขณะนั่งสมาธิอยู่ พอดีไม่ได้ดูเวลาที่แน่นอนไว้ ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเอ๋ะ เราเห็นอะไร เมื่อได้ข่าวเช้าวันอาทิตย์ ก็ ออ! อย่างนี้เอง
(แล้วทำให้ผมนึกถึง สิ่งที่ไม่ใช่คนที่เคยบอกว่า ภัยพิบัติ จะเกิดทำนองคล้ายสึนามิจะมีอีกบนโลกแต่คนละรูปแบบกัน แต่ผมไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนี้ ยังไม่ถึงปีเลยเกิดขึ้นแล้ว)

    และสิ่งที่ผมเห็นนั้น เป็นการเลือนลงมาของรอยแตกของแผนดินทั้งแผ่นที่มีรอยแยกอยู่ทั่ว ไม่ใช่เพียงชั่วเว็บเดียว ดังนั้นการเกิดแผนดินไหว ระดับ 7.5 ริกเตอร หรือมากกว่านี้ อาจจะยังมีอีกเป็นระลอกหลายครั้งนะครับ ถ้าคิดในแง่ที่ดีอาจจะเป็น อาฟเตอร์ช็อกก็ได้นะครับ (ตอนแรกว่าจะตั้งกระทู้ใหม่ แต่ก็กลัวเขาจะว่ากลายเป็นกระต่ายตื่นตูมไปเสีย)


      ต่อไปนีผมจะอธิบายถึงสามาธิและนิมิตที่เกิดขึ้นในเช้าวันเสาร์อย่างละเอียด เพื่อจะได้แชร์ข้อมูลกับผู้ที่มีความรู้ทางธรณีวิทยา ที่มีข้อมูลของรอยแตกหรือรอยเลือนของแผ่นเปลือกโลกในทวีปเอเชีย เพราะสิ่งเหล่านี้กำลังอยู่ใกล้กับเรามาก

     ผมขอเริ่มเล่าพฤติกรรมของตนเองก่อน ปกติในช่วงหลังๆ นี้ผมไม่คอยนั่งสมาธิที่บ้านเป็นรูปแบบที่บ้าน เพราะจะมานั่งสามาธิตอนเทียงที่ทำงานแล้วปล่อยให้หลับไปเป็นเวลา ครึ่งชั่วโมงทุกวันที่ทำงานถ้าไม่ติดธุระอย่างอื่น
วันพฤหัสบดีที่ 6 กับ วันศุกร์ที่ 7 ภรรยาอยู่อุบล ผมอยู่กับลูกกลางคืนปกติจะยุบห้องมานอนห้องเดียวกันเพื่อประหยัดไฟ ก็จะดูหนังทีวี แล้วหลับไปตามระเบียบ แต่คืนวันที่ 6 นั้นผมกลับประสงค์นั้งสมาธิยาวๆ เลยให้ลูกไปนอนห้องเดียวกัน ผมแยกมาอีกห้องต่างหาก ผมนั่งสมาธิยางไปเรื่อยเป็นปกติไม่มีอะไร
     คืนวันที่ 7 ภรรยากลับมาแล้ว แต่เราก็กับนั่งสมาธิ เช้าวันเสาร์ที่ 8 ประมาณ 8 ถึง 9 โมง ภรรยาก็ง่วนอยู่กับการทำตุกตาของเขา ลูกคนโตไปเรียนพิเศษ อีกคนหนึ่งก็เล่นเกมส์อยู่ ผมนั่งอยู่บนโชฟา ก็สั่งลูกว่าถ้าเล่นเกมส์ก็ให้ปิดทีวี ก็ปิดทีวิ
ก็เป็นอันว่าผมคนเดียวที่ไม่ได้ทำอะไร นั่งอยู่บนโชฟา จึงนั่งหลับตากำหนดกรรมฐานก็ได้อารมณ์กรรมฐานดี แต่ในที่สุดก็จะทิ้งลงสู่ภวังค์
การจะทิ้งลงภวังค์ครั้งนี้กลับไม่เป็นการ ค่อยๆเลือนหายไป แล้วหมดการรับรู้หรือรู้สึก แต่ปรากฏเป็นนิมิตขึ้น เป็นภาพแผ่นที่แต่ไม่ใช่แยกเป็นประเทศๆ นะครับ แต่จะเป็นแผ่นทั้งหมด เห็นรอยแยกรอยแตกต่างๆ มากรอย แต่ตรงกลางแผ่นนั้นมีรอยแตกน้อย แต่ด้านข้างปรากฏรอยแตกอย่างชัดเจน แยกออกเป็นเปลือก 3 ส่วนคือ ช้าย กลาง และขวา
แล้วผมก็เห็นแผนเปลือกกลางเริ่มขยื้นลงมาด้านใต้ มาชนกับเปลือกด้านใต้เข้าล็อกตรงรอยแตกแบบปากฉหลามด้านใต้ การเลื่อนอย่างรวดเร็วนั้นก็ก็หยุดชลอลง แต่เปลือกทั้งหมดกลางและใต้เสมือนกำลังเคลื่อนทางใต้ไปอีก (ตรงนี้ผมย่อมรับว่าผมไม่มีความรู้ทางธรณีวิทยา เรืองเปลือกโลกและรอยแตกมาก่อนอย่างชัดเจนเลย)
       หลังจากนั้นภาพก็หายไปจะมีแต่ความรู้สึกว่า เคลื่อนลงแล้วตัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปรู้ทั้งตัว ก็นึกขึ้นมาว่า เอ่! เห็นอะไรแปลกๆ ก็ไม่สนใจ ทำภาระกิจตามปกติ
       เมื่อมาทราบข่าวเช้าวันอาทิตย์ ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ภาพสัญญานั้นเกิดขึ้นก็คิดว่า เอ้านิมิตนั้นคือเหตุการณ์นี้เอง เมื่อมาพิจารณานิมิต มันไม่ได้จบเพียงแค่ขยื้นแล้วจบ แต่มันยังเคลือนลงมาทางใต้ ดังนั้นการเกิดแผ่นดินใหวก็ยังจะมีอีกเป็นระลอก ถ้าหมายถึงการะเกิด อาฟเตอร์ช็อก ก็คงมีภัยพิบัติเพียงแค่นี้ แต่ถ้าไม่ไช่ ภัยพิบัติที่เกิดจากแผนดินเคลือนแผ่นดินไหวลงมามาทางใต้ก็จะยังมีอีกในระยะเวลาใกล้นี้

     สี่งที่น่าระวังในประเทศไทยคือเขี่อนที่อาจจะมีผลกระทบ ถ้าเกิดมีแผนดินเคลือนอีกหลายระลอกแบบยังไม่หยุด

     ท่านใดที่มีข้อมูลทางธรณีวิทยาเปลือกโลก ก็ขอเชิญร่วมแสดงและวิเคราะห์ร่วมด้วยนะครับเพื่อเป็นความรู้และการตั้งรับสิ่งที่อาจจะเกิด ก็ไม่ได้เป็นการเสียหายในทางวิชาการนะครับ
      จากคุณ : Vicha [ ตอบ: 10 ต.ค. 48 10:58 ]